การเดินทางของชาวไบเกอร์ไม่ได้มีแค่เรื่องของ “ถนน” แต่ยังรวมถึง “ไลฟ์สไตล์” และ “มิตรภาพ” ล่าสุดรายการ Tattoo Brothers สักแต่พูด พาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์สุดอันซีนในทริปล่องใต้ที่แตกต่างจากทุกครั้ง ด้วยการนำรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจขึ้นเรือเฟอร์รี่สุดหรู เดินทางยาวนานกว่า 20 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ สู่เกาะสมุย
เปิดซิงครั้งแรก! ใช้ชีวิตบนเรือเฟอร์รี่ 20 ชั่วโมง
ไฮไลท์สำคัญของทริปนี้คือการเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเหมือนเรือสำราญ ซึ่งเป็นครั้งแรกของหลายๆ คน รวมถึง เบนซ์ ไกจิน (Benz Gaijin) ที่ยอมรับว่าตื่นเต้นมากกับการ “เปิดซิง” กิจกรรมบนเรือครั้งนี้ โดยบนเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่ห้องพักแบบแคปซูลสไตล์ญี่ปุ่น ไปจนถึงโซนปาร์ตี้ที่ทำให้เหล่าไบเกอร์ได้ Connect กันอย่างแท้จริงเพราะไม่มีสัญญาณมือถือ
วิถีไบเกอร์สายฮาเลย์: เน้นชิล เน้นปาร์ตี้
พี่ริ หนึ่งในสมาชิกเล่าว่าทริปนี้เน้นความ “ชิล” มากกว่าการขี่แบบตะบี้ตะบันเหมือนปีที่แล้ว โดยเฉพาะสายฮาเลย์ที่จะมีสไตล์ชัดเจนคือ “กลางวันดื่มกาแฟ กลางคืนปาร์ตี้” ซึ่งเป็นการพาสายลุยอย่างเบนซ์ ไกจิน มาเปิดหูเปิดตากับการแฮงค์เอาท์ริมหาดตลิ่งงามที่เงียบสงบและสวยงามของสมุย
เปิดสตอรี่รอยสัก “บอย โลโมโซนิก” และ “ลูกหมู”
รอยสักมักแฝงไปด้วยความหมายส่วนตัว ในทริปนี้เราได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจ:
- บอย โลโมโซนิก (Boy Lomosonic): เผยรอยสักใหม่คำว่า “สติ” และ “ใจเย็น” ที่ข้อมือ เพื่อเตือนตัวเองเวลาทำงานหรือถือไมค์ หากมีเหตุการณ์มากระทบใจ รอยสักนี้จะช่วยดึงสติให้เขาสงบลงได้
- ลูกหมู (Lookmoo): อินฟลูเอนเซอร์สาวสายไบเกอร์ โชว์รอยสักที่หลังเป็นประโยคที่ว่า “เกลียดในสิ่งที่ฉันเป็น ดีกว่ารักในสิ่งที่ฉันไม่ได้เป็น” และรอยสักรูปหน้าตัวเองที่สื่อถึงการขอบคุณตัวเองที่ผ่านอุปสรรคมาได้
ความสนุกริมหาดและการทดลองเล่น Jet Surf
นอกจากปาร์ตี้และการขี่รถ กิจกรรมทางน้ำก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ภูริ (Puri) โชว์ทักษะการเล่น Jet Surf ที่ดูเท่และคล่องแคล่วขณะที่ สมพงษ์ (Somphong) ไบเกอร์ชาวอังกฤษหัวใจไทย ผู้ชื่นชอบรถ Honda Wave เป็นชีวิตจิตใจ ก็มาร่วมสร้างสีสันและแลกเปลี่ยนเรื่องราวรอยสักแนว “Spiral” และ “Pay of sucker” ของเขา
บทสรุปของทริปซ่าสุดทาง
ทริปนี้จบลงด้วยความประทับใจที่จังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช ท่ามกลางบรรยากาศ “ควายน้ำ” ไฮไลท์สำคัญของพัทลุง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความสุขของไบเกอร์ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง แต่อยู่ที่การได้ใช้เวลาร่วมกันระหว่างทางและการแชร์เรื่องราวรอยสักที่เป็นดั่งบันทึกชีวิตของแต่ละคน



